
การส่งเด็กไปอยู่กับแฟมมิลี่ ที่ในบ้านใช้ภาษาอังกฤษจะสามารถให้การศึกษาที่ดีให้แก่ลูกๆของท่านในด้านภาษาอังกฤษ แต่เราจะเลือกอย่างไรที่จะมั่นใจว่า เด็กจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี และได้พัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษจริงๆ ไม่ใช่การไปเรียนต่างประเทศ แต่ไปเรียนในห้องเรียนแล้วไม่ค่อยได้ใช้ นอกจากจะซื้อของหรือสนทนากับเพื่อนต่างชาตินิดหน่อย พอถึงเวลาจริงๆเด็กๆจะอายในการพูดกับคนต่างชาติ

การให้เด็กได้อยู่กับครอบครัวชาวต่างชาติ เราจะไว้ใจได้อย่างไรว่าเด็กจะปลอดภัย เด็กจะมีความอบอุ่น เด็กจะได้รับความสะดวกสบายที่เพียงพอเหมือนที่เราได้ดูแลเองในสายตา เรามั่นใจว่าคำถามนี้จะอยู่ในความคิดของผู้ปกครองทุกคนในการให้การศึกษาแก่ลูกๆของท่าน เราจึงคัดสรรครอบครัวที่เราไว้วางใจ ปลอดภัยและสามารถดูแลเด็กๆได้อย่างทั่วถึง ครอบครัวที่มีความเป็นอยู่และประวัติความเป็นมาที่ดี นับได้ว่าเป็นผู้ดีของชาวดาร์จีลิ่งเลยก็ว่าได้ ภายในบ้านทุกคนจะพูดภาษาอังกฤษกับเด็กๆจะคอยชวนพูดคุยเวลานั่งดูทีวี ทานข้าว คอยถามไถ่ถึงความต้องการของเด็กที่มาพัก และคุยเป็นเพื่อน เชคอารมณ์เด็ก เพื่อไม่ให้เด็กเกิดอาการเหงาหรือคิดถึงบ้าน แต่เมื่อเด็กต้องการใช้เวลาส่วนตัว ก็จะไม่เข้าไปวุ่นวาย แม่บ้านจะดูแลเรื่องความสะอาดในห้องนอนให้เด็ก ทำอาหาร 3 มื้อให้ทาน ซักรีดเสื้อผ้า เตรียมน้ำร้อนให้อาบน้ำ แม้กระทั่งเก็บที่นอน หากท่านผู้ปกครองประสงค์ที่จะให้ลูกๆตัดสินใจอย่างอิสระในการดำรงชีพ เพื่อที่พวกเขาจะได้เติบโตขึ้นเผชิญกับการตัดสินใจเรื่องบางอย่างด้วยตัวเอง เพื่อสามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึนในอนาคต การจะบรรลุการศึกษาที่ดีและมีคุณภาพนั้นนักเรียนจะต้องมีความอดทนและเข้มแข็ง การได้ไปใช้ชีวิตอยู่กับคนอื่นจะทำให้เค้ารู้จักการช่วยเหลือตัวเอง
บริษัท บีเอ็นบี ทราเวล เซ็นเตอร์ ขอเชิญท่านสัมผัสกับบรรยากาศใหม่ที่สดชื่น เย็นสบาย บนภูเขาสูงท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัยอันงดงาม และชาดาร์จีลิ่งที่มีชื่อเสียงก้องโลก และเปลี่ยนบรรยากาศในการพักผ่อน ที่นี่แม้อยู่ห่างไกลความเจริญทางวัตถุ แต่อุดมไปด้วยความเจริญของธรรมชาติที่สวยงามและเงียบ ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้าและต้นไม้ในป่าทั่วบริเวณ วิวทิวทัศน์สวยงาม อากาศเย็นฉ่ำตลอดปี ภายใต้การปกครองของราชอาณาจักรอังกฤษ ประเทศอินเดียมีรากฐานทางการศึกษาที่วางไว้ตามระบบของชาวอังกฤษมายาวนานกว่า 100 ปี จนในที่สุดประเทศอินเดียก็เป็นเอกราชในปีพ.ศ. 2490 แม้ว่าประเทศอินเดียจะเป็นเอกราชแล้ว แต่ชาวอังกฤษก็ได้ทิ้งระบบการศึกษา ไว้เบื้องหลังอย่างน่าทึ่งจนถึงทุกวันนี้ ในระบบการศึกษานานาชาติ ที่ยอมรับกันทั่วโลก เด็กๆจะได้สำเนียงสนทนาและภาษาอังกฤษในสไตล์บริติชอย่างแท้จริง ได้สัมผัสความเป็นอยู่ของครอบครัวชาวดาร์จีลิ่งซึ่งจะดูแลอย่างอบอุ่น เปรียบเสมือนคนในครอบครัว รวมถึงโอกาสที่จะได้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัยที่ภูเขาเสือ Tiger hillเพื่อชมยอดเขาคันเซนจุงก้า ภูเขาที่สูงเป็นอันดับสามของโลก - ชม สถาบันการปีนเขาหิมาลัย Himalayan Mountaineering Institute – และได้เห็นสัตว์ที่หาดูได้ยาก เช่นหมีแพนด้าสีแดง หมีดำหิมาลัย เสือไซบีเรีย ที่สวนสัตว์ปมาจาร์ นัยดรูPadmaja Naidu Himalaya Zoological Park - ชิมชาดาร์จีลิ่งที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุดในโลก ชมไร่ชาที่เขียวชอุ่มและกว้างใหญ่ - ขึ้น Darjeeling Toy Train ในเส้นทางรถไฟไอน้ำที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลก – ชม Ghoom gompa วัดพุทธนิกายมหายาน – ชมวิวสวยที่ Batasia Loop – ชมบ้านเมืองตามภูเขาตั้งอยู่ลดหลั่นกันไปตามหุบเขาและภูเขาหิมะ ทะเลหมอก - ช้อบปิ้งสินค้าเมืองหนาวที่ย่าน ชอว์ราสต้า สตรีท

การไปเรียนที่ดาร์จีลิ่งมีข้อดีหลายอย่างเพราะดาร์จีลิ่งเป็นเมืองที่มีความเป็นอยู่ที่มีธรรมชาติสวยงาม ห่างไกลจากสังคมวัตถุของเมืองใหญ่แบบกรุงเทพ เพราะไม่มีคลับ บาร์ ดิสโก้ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ที่จะมอมเมาเยาวชน เด็กๆจะเข้าใจความเรียบง่ายและสิ่งที่สำคัญของชีวิตซึ่งหาจากเมืองหลวงหรือในสังคมที่ให้ความสำคัญทางวัตถุไม่ค่อยได้ เช่นน้ำใจของคนพื้นเมือง วัฒนธรรม อากาศที่ไร้มลพิษ บรรยากาศท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัย ดีกว่าที่จะเห็นพวกเขานั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หลังกลับจากโรงเรียนและเสียเวลาไปกับการเล่นวิดีโอเกม ในเรื่องสุขภาพก็มีการรับประทานอาหารที่ดี และการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เด็กๆจะได้เดินเป็นส่วนใหญ่ในการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เพราะดาร์จีลิ่งเป็นเมืองที่อยู่บนภูเขา การเดินก็จะเป็นการเดินขึ้นลงตามเนินซึ่งลดหลั่นกันไป ซึ่งเราทราบดีว่าชีวิตแต่ละวันไม่สามารถจะทำได้สักเท่าไหร่ เด็กๆสามารถได้พบเจอกับเพื่อนคนไทยด้วยกันบ้างในคลาสเรียน บางครั้งอาจได้ไปเที่ยวสวนสัตว์ หรือ Rock Garden และสถานที่บางแห่งด้วยกัน ซึ่งไม่ไกลจากบ้านพัก หรือเดินไปร้านอินเตอร์เนตใกล้บ้านและใช้เวลาเดินเพียงแค่ 5-10 นาที

กิจวัตรในแต่ละวันของเด็กๆ
1. เด็กๆจะสามารถทำอาหารง่ายๆทานเองได้ทั้งในห้องแพนทรีเล็ก หรือในห้องครัวใหญ่ หากต้องการทานอาหารถูกปากที่นำมาจากเมืองไทย เช่นทอดกุนเชียง หรือทำเมนูไข่ต่างๆตามแบบไทย เจ้าของบ้านสามารถทำอาหารไทยได้เป็นบางอย่างเช่น ข้าวผัด ไข่ดาว ไข่เจียวและแกงจืดบางชนิด แต่ที่บ้านนี้จะไม่ทานเนื้อวัว เพราะเป็นคนฮินดู อาหารมื้อเช้าส่วนใหญ่จะเป็นข้าวต้ม ไข่ดาวหรือไข่เจียว มื้อกลางวันจะเป็ข้าวและกับ หรือ Noodle มื้อเย็นจะเป็นมื้อใหญ่ แต่ทุกมื้อจะมีผลไม้ เด็กอาจนำหมูหยองจากเมืองไทยมาทานเพิ่มเติมหรือนำมาม่าต้มยำ มาทานแก้เบื่อก็ได้

2. เจ้าของบ้านจะดูแลอาหารทั้ง 3 มื้อ เด็กๆจะทานครบทั้ง 3 มื้อหรือไม่ก็ได้ เพราะถ้าเบื่อก็สามารถทำเองเพิ่มเติม หรืออกไปทานอาหารไทยที่ร้านอาหารไทยใกล้ๆถนนชอว์ราสต้าได้เช่นกัน บริเวณที่อยู่จะเป็นย่าน Down town คือมีร้านขนมและอาหารให้เลือกทานได้มากมาย
3. เจ้าของบ้านจะมีสาวใช้และแม่บ้านคอยทำความสะอาดและดูแลเรื่องซักรีดเสื้อผ้าถึง 4 คน แต่หากเป็นชุดชั้นในต้องซักเอง หรือหากเป็นเสื้อกันหนาวที่หนาหรือที่ต้องซักแห้ง เด็กๆต้องนำไปส่งร้าน Laundry ใกล้บ้าน ห้องน้ำทุกห้องจะมีเครื่องทำน้ำร้อนและมีแม่บ้านทำความสะอาดทั้งห้องน้ำและห้องพักของเด็ก
4. การเรียนภาษาอังกฤษจะมีวันหยุด 2 วันคือวันเสาร์และอาทิตย์ ทางเราจะจัดให้เด็กๆได้ไปเที่ยวตามจุดที่สำคัญของเมืองดาร์จีลิ่งอาทิตย์ละครั้งในวันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์ก็จะปล่อยให้เด็กๆได้พักผ่อนตามอัธยาศัย สามารถออกไปเดินเล่นในเมืองหรือทานขนมได้ โดยจะต้องแจ้งเจ้าของบ้านทราบก่อนเสมอ
5. เด็กๆจะสามารถไปใช้บริการอินเตอร์เนตได้ที่ร้านใกล้บ้าน เพราะเจ้าของบ้านเป็นเจ้าของเองแต่ต้องเสียค่าบริการตามอัตราปกติเพราะพนักงานประจำที่ร้านไม่สามารถให้พิเศษได้เอง เว้นเสียแต่เจ้าของบ้านจะนำเด็กๆมาแนะนำเพื่อให้ส่วนลดเอง
6. หากเด็กๆจะออกไปเดินเล่นในบริเวณใกล้เคียงจะต้องแจ้งเจ้าของบ้านทุกครั้งว่าจะไปที่ไหน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและสะดวกในการติดตาม ห้ามออกไปข้างนอกตามลำพังโดยเด็ดขาด จะต้องมีเพื่อน แม่บ้านหรือเจ้าของบ้านคนใดคนหนึ่งออกไปด้วย เด็กๆสามารถนำโทรศัพท์เมืองไทยมาใช้และซื้มซิมการ์ดแบบเติมเงินของทางอินเดียมาใส่ได้ แต่หากไม่มีผู้ปกครองสามารถโทรเข้าหาได้ตลอดที่หมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของบ้าน
7. การไปเที่ยวสวนสัตว์หรือสถาบันปีนเขาหิมาลัย จะต้องเสียค่าบัตรประมาณคนละ 100 รูปี ซึ่งเด็กจะต้องจ่ายเอง และรวมถึงค่ารถไฟ Toy Train ซึ่งแล้วแต่ระยะทางที่จะลงแต่ละสถานี ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกสถานที่เราจะมีรถแวนมารับ-ส่งที่บ้าน พร้อม Escort ดูแลที่เด็กรู้จักเป็นอย่างดีคอยพาเด็กๆเที่ยวตลอดทุกสถานที่
8. หากเด็กคนใดไม่ปฏิบัติตัวให้อยู่ในความดูแลของผู้รับผิดชอบในกฎระเบียบที่ตั้งไว้ ทั้งกับเจ้าของบ้านก็ดีหรือ Escort ผู้ติดตามดูแลก็ดี หากเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์อันใด หรือเด็กไปทำความเสียหายที่เกินกว่าวิสัย ทางเราไม่ขอรับผิดชอบในความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในทุกกรณีจะขอถือประโยชน์ของเด็กเป็นสำคัญ
เดินทางได้ตั้งแต่เดือน มีนาคม - พฤศจิกายน ของทุกปี